วันศุกร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ทางไปเอาเงินล้านอย่างมีความสุข(1)

      สวัสดีครับทุกท่าน ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่"ทางไปเอาเงินล้านอย่างมีความสุขนะครับ"ก่อนอื่น เรามาเริ่มต้นกันที่คำถามนี้ดีกว่า

เศรษฐีเงินล้านมีอวัยวะส่วนไหนที่แตกต่างจากเรา ???
                ถ้าคำตอบของเรา คือ ไม่แตกต่างจากเราเลยแม้แต่น้อย ไม่ว่าจะเป็น แขน ๒ แขน  ขา ๒ ขา ตา ๒ ตา สมอง ๑ สมอง ฯลฯ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้น คำถามที่มวลมนุษยชาติที่ดำรงชีวิตอยู่อย่างยากไร้ในโลกนี้ควรถามตัวเองมากที่สุด  คือทำไมเราไม่เป็นเศรษฐีเงินล้าน???
                จากคำถามนี้เอง นำมาซึ่งการศึกษาค้นคว้าและวิจัย เพื่อตอบคำถามดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็น การอ่านหนังสือเป็นจำนวนหลายร้อยเล่ม เกี่ยวกับ ประวัติของเศรษฐีเงินล้าน, วิธีคิด และวิธีทำของเศรษฐีเงินล้าน, ศาสตร์หรือปรัชญาของการเป็นเศรษฐีเงินล้าน ฯลฯ นอกจากนี้ยังอาศัยการสืบค้นข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตเป็นเวลาพันๆชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็น บทความ บทสัมภาษณ์ ฯลฯ ที่เกี่ยวกับการเป็นเศรษฐีเงินล้านในรูปแบบต่างๆ อีกทั้งยังได้นำเอาความรู้ที่ได้รับจากการค้นคว้ามาวิเคราะห์และสังเคราะห์เพื่อสร้างเป็นองค์ความรู้ที่เป็นระบบ มีขั้นตอนหรือกระบวนการที่ชัดเจน และได้นำมาทดลองปฏิบัติด้วยตัวข้าพเจ้าเอง จนกระทั่งประสบความสำเร็จ กลายเป็นเศรษฐีเงินล้านจากชีวิตที่ติดลบ(เป็นหนี้ทั้งในและนอกระบบเป็นจำนวนกว่า ๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท)   ซึ่งผลจากการศึกษาค้นคว้าและวิจัย สรุปได้ว่า การที่คนยากจน หรือ คนธรรมดาสามัญจะกลายเป็นเศรษฐีเงินล้านได้นั้น เกิดจากสิ่งที่อยู่ภายในจิตใจที่เรามองไม่เห็นเป็นแรงขับดัน  ซึ่งข้าพเจ้าขอเรียกข้อสรุปนี้ว่า กฎแห่งผลลัพธ์จากสิ่งที่มองไม่เห็น แสดงได้ดังภาพที่ ๑

ภาพที่ ๑ : กฎแห่งผลลัพธ์จากสิ่งที่มองไม่เห็น

                จากภาพที่ ๑ อธิบายได้ว่า สิ่งที่เรามองเห็นต่างๆ อาทิเช่น การได้ครอบครองบ้านหลังสวยๆ รถยนต์คันหรูๆ มีเงินในบัญชีธนาคารร้อยล้านพันล้าน การมีเวลาทำในสิ่งที่เรารักและมีความสุข การอยู่กับครอบครัวหรือคนที่เรารัก การเดินทางท่องเที่ยวทั่วโลก การมีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง การไม่เจ็บป่วยเป็นโรคร้ายแรง การมีสุขอนามัยที่ดี ฯลฯ เป็นผลลัพธ์ที่เกิดจากสิ่งที่มองไม่เห็น นั่นคือ แรงบันดาลใจ ความคิด จิตใจ อารมณ์ ความรู้สึก กระบวนทัศน์ ทัศนคติ จินตนาการ ความเชื่อ  ความคิดสร้างสรรค์ หล่อหลอมรวมกันจนกลายเป็น ศรัทธา
                คำอธิบายเกี่ยวกับกฎแห่งผลลัพธ์จากสิ่งที่มองไม่เห็นนี้ ไม่ได้กล่าวขึ้นมาลอยๆหรืออยู่ดีๆก็คิดขึ้นมาเอง แต่มีทฤษฎีต่างๆมารองรับมากมาย  แต่ข้าพเจ้าจะไม่นำมากล่าวอ้างถึงให้เสียเวลา  จะยกตัวอย่างให้เห็นกันให้ชัดเจน  คือ สิ่งประดิษฐ์ต่างที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ ที่พวกเราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ ล้วนเป็นผลลัพธ์จากสิ่งที่มองไม่เห็นทั้งสิ้น  อาทิเช่น
                - เครื่องบิน เดิมทีมันไม่มีอยู่จริง มันเกิดจากความสงสัยว่า นกบินได้  จะทำอย่างไรให้คนบินได้เหมือนนก????
                - โทรศัพท์มือถือ เดิมทีมันไม่มีอยู่จริง มันเกิดจากความสงสัยว่า จะติดต่อสื่อสารกับคน     ที่อยู่ห่างไกลได้อย่างไร????
                - คอมพิวเตอร์ เดิมทีมันไม่มีอยู่จริง มันเกิดจากความสงสัยว่า จะหาอะไรมาทดแทน   สมองและแรงงานคน????
                - รถยนต์ เดิมทีมันไม่มีอยู่จริง มันเกิดจากความสงสัยว่า จะหาอะไรมาทดแทนรถจักรยาน???? ฯลฯ..............
                ที่ข้าพเจ้าขีดเส้นใต้คำว่า เดิมทีมันไม่มีอยู่จริง มันเกิดจากความสงสัย นั้น เป็นข้อความที่ข้าพเจ้าอยากเน้นย้ำ เพราะนี่เป็นข้อความที่เปลี่ยนแปลงโลกใบนี้  ทุกๆสรรพสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นทั้งใน อดีต ปัจจุบัน และอนาคตนั้น เดิมทีมันไม่มีอยู่จริง  แต่มันเกิดจาก แรงบันดาลใจ เป็นจุดเริ่มที่จะสร้างสิ่งนั้น แล้วเกิดการคิดเกี่ยวกับสิ่งนั้นอย่างต่อเนื่องรุนแรงสม่ำเสมอและมีพลัง จนทำให้ เกิดการนำไปผูกติดกับจิตใจ ในระดับ จิตใต้สำนึก  ทำให้เกิดอารมณ์และความรู้สึกอย่างรุนแรงที่จะสร้างสิ่งนั้นขึ้นมา จนเกิดเป็นกระบวนทัศน์ใหม่ๆเข้ามาแทนที่กระบวนทัศน์เดิม และใช้ทัศนคติ  เชิงบวกในการสร้างสรรค์จินตนาการจนเห็นภาพแห่งความสำเร็จได้อย่างชัดเจน และใช้ความเชื่อเป็นพลังในการขับเคลื่อนไปสู่การปฏิบัติ โดยใช้แนวทางการคิดอย่างสร้างสรรค์ พร้อมทั้งมุ่งมั่นทุ่มเททั้งชีวิตและจิตวิญญาณสร้างสรรค์สิ่งนั้นให้สำเร็จได้ด้วยศรัทธาอันแรงกล้า โดยปราศจาก  ข้อสงสัยใดๆทั้งสิ้น!!!”         
                จากข้อความดังกล่าว สามารถสรุปได้ว่า ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไร(เงินล้าน บ้านหลังงามๆ รถยนต์คันหรูๆ ท่องเที่ยวรอบโลก สุขภาพแข็งแรง จิตผ่องใส สะอาด สว่าง และ สงบ)  ยากแค่ไหน ลำบากเพียงใด มนุษย์ทุกคนก็สามารถที่จะได้ในสิ่งนั้น ซึ่งขึ้นอยู่กับเงื่อนไขเดียว คือ ความศรัทธา และต้องเป็น ความศรัทธาอันแรงกล้าโดย ปราศจากข้อสงสัยใดๆทั้งสิ้น!!!”
                จากพลังของศรัทธานี้เอง ที่นำพาให้มนุษย์เราสร้างสรรค์สิ่งต่างๆขึ้นมา โดยเริ่มสร้างจาก นามธรรม  --> รูปธรรมนั่นคือ การเขียนความคิดออกมาเป็นรูปภาพ ข้อความ โครงสร้าง ฯลฯ
เช่น  การสร้างบ้าน เดิมที บ้านเป็นแค่ความคิด  ช่าง/วิศวกรก็เริ่มเขียนร่างแบบบ้านออกมา ว่า บ้านมีส่วนประกอบใดบ้าง(ใช้ เสา อิฐ หิน ปูน ทราย ฯลฯ จำนวน/ปริมาณเท่าไหร่?)จากนั้น ช่าง/วิศวกรก็ใช้คำพูดในการติดต่อสื่อสารกับทีมงาน แล้วเริ่มวางแผนในการลงมือทำอย่างเป็นกระบวนการ  หลังจากลงมือทำแล้ว ก็มีการตรวจสอบ แก้ไข ปรับปรุง และพัฒนา จนกลายเป็นบ้านหลังสวยงามดังที่มองเห็นเป็นรูปธรรม อย่างนี้เป็นต้น             ดังนั้นจึงสรุป ได้ว่า ทุกสรรพสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น ล้วนเกิดขึ้นมาจาก ความคิด ทั้งสิ้น ซึ่งมีกระบวนการที่สำคัญคือ คิด --> เขียน --> พูด --> ทำ --> ตรวจสอบ--> แก้ไข --> ปรับปรุง --> พัฒนา --> กลายเป็นรูปร่างที่สมบูรณ์ จากกระบวนการดังกล่าว สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับทุกๆสิ่งที่มนุษย์อยากสร้างสรรค์ขึ้นมา ไม่เว้นแม้แต่        การเป็นเศรษฐีเงินล้าน แรกเริ่มท่านต้อง
           คิด (ที่จะเป็นเศรษฐีเงินล้าน) -->
                เขียน (วิธีการ/สิ่งที่จะทำให้ท่านเป็นเศรษฐีเงินล้าน) -->
                พูด (สื่อสารให้ทีมงาน/ลูกค้ารับรู้) -->
                ทำ (ตามขั้นตอน/กระบวนการที่กำหนด) -->
                ตรวจสอบ--> แก้ไข --> ปรับปรุง --> พัฒนา (อย่างต่อเนื่องทุกขั้นตอน) -->
                กลายเป็นรูปร่างที่สมบูรณ์ (เป็นเศรษฐีเงินล้าน)

(สำหรับวันนี้ เอาแค่นี้ก่อนนะครับ ติดตามตอนต่อไปนะครับ)
อ.นเรศ  สีละมัย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

อยากรวย อยากเป็นเศรษฐี ต้องดูวิดีโอนี้ ด่วน!

ผู้สนับสนุน Blog

Google Search